การออกแบบบ้าน ที่ดีและมีประสิทธิภาพต้องทำอย่างไร พิจารณาอะไรบ้าง ใครอยากรู้ตามมาดูการออกแบบบ้านเองให้เป๊ะปังแบบไม่ง้อ มืออาชีพ กันได้เลย

การจะสร้างบ้านสักหลังในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ หลายคนคงกำลังหาวิธีในการสร้างบ้านให้ตามงบกับที่ตนมีอยู่หรือหากเป็นไปได้ก็คิดหาวิธีในการประหยัดงบประมาณ ไม่ว่าจะเป็นลดการตกแต่งที่น้อยลง การหาวัสดุทดแทน หรือ แม้แต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบบ้านจากที่ตนคิดไว้เลยก็มี แต่ในวันนี้เราจะมาแนะนำ 6 เทคนิค ที่จะช่วยประหยัดงบประมาณในการสร้างบ้านของคุณ เพื่อให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องงบที่ปานปลาย และแบกรับกับค่าปรับแก้ในส่วนต่าง ๆ ที่มันบานปลายอีกต่อไปค่ะ
เปลี่ยนวิธีในการสร้างหรือออกแบบบ้าน
หากคุณกำลังคิดที่จะสร้างบ้านในราคาประหยัดแล้วหละก็ คุณอาจจะต้องเลือกปรับเปลี่ยนวิธีในการสร้างและออกแบบบ้านใหม่ เช่น ในกรณีของการเดินสายไฟ คุณอาจเลือกวิธีปรับเปลี่ยนมาเป็นการเดินสายไฟลอย และใช้วิธีเก็บสายไฟให้เรียบร้อยแทน เพื่อเป็นการลดงบประมาณในเรื่องของการใช้แรงงานและความประณีตไปได้ส่วนหนึ่ง หรือถ้าแบบบ้านเป็นชั้นเดียวแต่ต้องการยกสูง ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการถมดินค่อนข้างมาก เพื่อไม่ให้บ้านทรุด อาจลองปรับเปลี่ยนมาเป็นเล่นระดับของบ้านแทน ก็จะทำให้ตัวบ้านดูโปร่งขึ้น โดยไม่ต้องเสียสตางค์เยอะ
เลือกสเปควัสดุที่จำเป็น
หากต้องการสร้างบ้านในราคาประหยัดแล้วนั้น การเลือกสเปควัสดุเท่าที่จำเป็น ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้คุณประหยัดงบประมาณไปได้ เช่น โซนซักล้างหลังบ้าน อาจเลือกใช้การเทปูนเปือยธรรมดา เป็นต้น
สร้างบ้านให้เหมาะสมกับพื้นที่
การเลือกพื้นที่ในการสร้างบ้านให้แค่พอเหมาะกับจำนวนสมาชิกภายในบ้าน โดยพื้นที่ที่เหลือสามารถนำไปทำเป็นสวน ลานนั่งเล่น หรือเพื่อการเกษตรปลูกผักสวนครัวแล้วนั้น การสร้างบ้านตามพื้นที่ที่พอเหมาะกับคนในครอบครัว นอกจากจะประหยัดงบประมาแล้ว ยังช่วยในเรื่องของระบบถ่ายเทอากาศภายในบ้านได้ดีอีกด้วย
ควรดูแสงและลม ให้เหมาะสมช่วยในการประหยัด
หลักการสร้างบ้านในราคาประหยัดอีกวิธีง่าย ๆ นั้น เพียงแค่คุณรู้จักทิศทางของลมและแสง เช่น การหันหน้าต่างเข้าสู่ทิศทางที่มีแสงส่องถึง การต่อเติมระเบียงในทิศทางที่มีลมพัดผ่านเข้าบ้านได้อยู่ตลอด เพียงเท่านี้ ก็สามารถประหยัดไปได้เบื้องต้นทั้งในเรื่องของการติดตั้งดวงไฟภายในบ้านที่เกินความจำเป็น หรือการติดตั้งแอร์ในบางห้องเป็นต้น
ดูแปลนบ้านให้ตามความเหมาะสม
การวางผังหรือแปลนบ้านนับว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้คุณเห็นถึงภาพกว้างทั้งหมดของบ้านเราจากการดูแปลนหรือแผนผังของบ้าน และทำให้คุณสามารถวิเคราะห์และตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกได้ ดังนั้นการวาดแปลนบ้านหากจะให้คำนึงถึงความประหยัดด้วยแล้วนั้นควรยึดตามพื้นที่ที่จำเป็น เช่น ห้องน้ำ ห้องนอน เป็นหลัก
6. ปรับเปลี่ยนวัสดุ
คุณสามารถสร้างบ้านราคาประหยัดได้โดยการเลือกใช้วัสดุ เช่น การใช้ปูนเปลือยแทนการใช้กระเบื้อง หรือพื้นไม้ การใช้ยิปซั่มบอร์ดแทนอิฐมอญเบาเป็นต้น
เพียงคุณรู้จักวิธีเลือก ตัดของไม่จำเป็นออกไปเท่านี้คุณก็สามารถสร้างบ้านในราคาประหยัดได้อย่างง่ายดาย โดย 6 เทคนิคที่เรานำมาฝากคุณผู้อ่านในวันนี้ เป็นเพียงแค่วีธีเบื้องต้นสำหรับการสร้างบ้านในราคาประหยัดเพียงเท่านั้น หากคุณกำลังมองหาวิธีการสร้างบ้านในราคาประหยัดเพิ่มเติม คุณควรปรึกษาบริษัทรับสร้างบ้าน หรือผู้ที่ประกอบวิชาชีพที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการสร้างบ้านเช่นสถาปนิก หรือผู้รับเหมา เพื่อที่คุณจะได้ตัวเลือกสำหรับการสร้างบ้านในราคาประหยัดที่หลากหลาย และปลอดภัยทั้งแก่คุณผู้อยู่อาศัยด้วยเป็นต้น
-วางแปลนบ้านตามทิศเหนือ-ใต้ จุดเริ่มต้นของ บ้านเย็น ที่อยู่สบาย คือ การวางตำแหน่งบ้านให้ถูกต้อง ด้วยการวางตัวบ้านขนานแนวโคจรของดวงอาทิตย์ ให้ด้านแคบของบ้านหันไปทิศตะวันออกและตะวันตกซึ่งมีแดดแรง แล้วหันด้านยาวของบ้านไปทางทิศเหนือและใต้ซึ่งได้รับแดดน้อยกว่า และทำช่องหน้าต่างเปิดรับลมธรรมชาติให้มากที่สุด โดยมีทิศทางลมและแสงแดด
- a.ช่วงกลางเดือนตุลาคม-กลางเดือนกุมภาพันธ์ มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดพาอากาศหนาวมา และช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์-กลางเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงลมเปลี่ยนทิศจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเป็นลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
- b.ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนตุลาคม มีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดพาฝนและความชื้นมา
-ทิศทางแดด
-
c.ช่วงเดือนมีนาคม และกันยายน เป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์โคจรใกล้โลกมากที่สุด แสงแดดช่วงเช้าจะมาทางทิศตะวันออก แสงแดดช่วงบ่ายและเย็นจะมาทางทิศตะวันตก ส่วนทางทิศเหนือและใต้จะได้รับแสงแดดระหว่างวันในปริมาณน้อย
-
d.ตั้งแต่เดือนมิถุนายน เป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์โคจรอ้อมไปทางทิศเหนือมากที่สุด ดังนั้นแสงแดดช่วงเช้าจะมาทางทิศตะวันออกและเหนือ แสงแดดช่วงบ่ายถึงเย็นจะมาทางทิศตะวันตกและทิศเหนือบางส่วน ในช่วงนี้ทิศใต้จะได้รับแสงแดดในปริมาณน้อย
-
e.ตั้งแต่เดือนธันวาคม เป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์โคจรอ้อมไปทางทิศใต้มากที่สุด ทิศใต้จึงได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน และทิศเหนือจะได้รับแสงแดดน้อย
จัดห้องตามทิศและช่วงเวลาการใช้งาน
เนื่องจากเราไม่สามารถจัดวางทุกห้องให้อยู่เฉพาะทิศเหนือและตะวันออกซึ่งโดนแดดน้อยได้ทั้งหมด แต่สามารถจัดตามช่วงเวลาการใช้งานได้ เช่น ห้องน้ำและห้องครัวซึ่งมีความชื้นสูง มีการใช้งานเป็นครั้งคราวก็เหมาะกับทิศตะวันตกและทิศใต้ หรือถ้าเราใช้ห้องทำงานเฉพาะช่วงเช้าถึงช่วงกลางวัน การจัดห้องทำงานไว้ในทิศตะวันตกก็สามารถทำได้เพราะแดดจะเข้าช่วงบ่าย โดยหลีกเลี่ยงห้องที่ใช้งานช่วงบ่ายถึงกลางคืนไว้ในทิศที่ร้อน เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น เพราะผนังที่รับแดดมาทั้งวัน จะคายความร้อนมาในช่วงกลางคืน ทำให้ห้องนั้นยังคงร้อนในช่วงเวลาที่เราใช้งาน
เทคนิคการวางแปลนหลบแดด รับลม
การวางแปลนบ้านที่ดีสามารถช่วยให้ บ้านเย็น ได้ด้วยตัวเอง มีไอเดียการวางแปลนดังนี้
-
วางแปลนให้บังแดดกันเอง เช่น การยื่นอาคารบางส่วนเพื่อช่วยบังแดดให้กับพื้นที่ใช้งานหลัก
-
วางส่วนเซอร์วิส ทางเดิน ที่เก็บของ ซึ่งไม่ได้ใช้งานบ่อยให้บล็อกความร้อนเข้าบ้าน
-
เพิ่มพื้นที่ผิวอาคาร เช่น การทำวางแปลนเป็นรูปตัวแอลและรูปตัวยู ช่วยระบายอากาศและเปิดมุมมองได้มากขึ้น
-
ลดขนาดอาคาร จัดวางเป็นกลุ่ม แทนการทำอาคารขนาดใหญ่หลังเดียว
-
ปิดนอก เปิดใน สไตล์คนเมือง โดยสร้างพื้นที่เปิดโล่งไว้ภายในบ้าน สามารถ เปิด รับ ลม ได้แบบเป็นส่วนตัว