เราเห็นในตัวอย่างหนังแค่นี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่า Pixar นี่ไม่เคยสิ้นไร้ไอเดียเจ๋ง ๆ จริง ๆ และลำพังแค่เรื่องการตามหาตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ของพีต ด็อกเตอร์ผู้กำกับ UP และ Inside Out ก็ทำให้เราอึ้งแล้วคราวนี้ลีลาการเล่ายังข้ามเส้นความเป็นแอนิเมชันเมนสตรีมแบบสมควรปรบมือให้ สามารถดูได้ที่ ดูหนังออนไลน์
โดยประการแรกเลยคือพีต ด็อกเตอร์ที่คราวนี้ขอดันเคมป์ เพาเวอร์สมาเขียนบทและกำกับร่วมได้สร้างโลกของวิญญาณ ชีวิตก่อนและหลังความตายได้น่าสนใจมากที่สำคัญคือมันเกินจากสิ่งที่ศาสนาพร่ำบอกแค่เรื่องความดีความชั่วแต่มันตั้งคำถามระดับอภิปรัชญาอย่าง เราเกิดมาทำไม? ได้ชวนคิดและคล้อยตามมากซึ่งในหนังทั่วไปโจอาจถูกปฏิบัติประหนึ่งฮีโร่ที่ล่าฝันและเอาชนะความตายกลายเป็นนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จ
ตรงกันข้ามเลย…แอบบอกให้นิดนึงว่าหนังให้โอกาสโจได้กลับมายังโลกจริงนะครับแต่เชื่อไหมว่าคนดูได้กลายเป็นฝั่งที่ได้เรียนรู้พร้อมกับโจ และหลายอย่างที่นำเสนอก็สั่นคลอนความเชื่อและคติเดิมในการใช้ชีวิตอยู่ไม่น้อย ผมยังจำซีนในร้านตัดผมได้ชัดเจนมากบทหนังให้โจไปเจอเพื่อนเก่าที่ต้องมาเป็นช่างตัดผมและคำตอบของคำถามที่ว่าคนเราชีวิตจะมีความหมายไหมถ้าเราไม่ได้ทำตามความฝันนี่มันเหนือความคาดหมายจริง ๆ และแน่นอนว่ามันส่งผลต่อการมองโลกของตัวละครทั้งสองและคนดูอย่างเราเข้าจัง ๆ
ประการต่อมาขอขยายจากข้อแรกว่าด้วยโลกหลังความตายอันนี้แม้ผิวเผินมันจะเหมือนแอบลอกการบ้านงานเก่าอย่าง Inside Out มาบ้างแต่ด้วยองค์ประกอบและการลำดับการเล่าเรื่องชั้นเซียนมันกลับทำให้เราคล้อยตามและชวนคิดมากเพราะคราวนี้แทนที่จะสร้างทุกอย่างออกมาเป็น 3 มิติเราเริ่มเห็นการออกแบบคาแรกเตอร์ที่ดูเป็นนามธรรมมากขึ้นโดยอาศัยโครง ๆ จากศิลปะแนวแอ็บสแตร็ก (Abstract) ที่ลดทอนเหลือแค่เส้นสาย(จากภาพที่ออกมาเหมือนได้แรงบันดาลใจจากแนว Cubism ของ Picasso)
ซึ่งแทนที่เราจะรู้สึกว่าการออกแบบคาแรกเตอร์ที่เป็นเส้น ๆ แบบนี้ดูลวก ไม่ตั้งใจวาด มันกลับทำให้เรามองเห็นความรัดกุมของบทอันว่าด้วยโลกหลังความตายและการพูดถึงนามธรรมและสิ่งสมมติได้อย่างลึกล้ำ เอาเป็นว่าต่อให้คุณไม่เคยสนใจปรัชญาการดูหนังเรื่องนี้ก็จะทำให้ได้คุ้นเคยและไม่แปลกแยก
ส่วนใครที่เชี่ยวชาญหรือสนใจด้านปรัชญาอยู่แล้วก็จะไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเลยแหละจะมีข้อเสียอยู่บ้างก็ตรงที่เรื่องราวและลีลาการเล่าเรื่องของมันอาจจะยิ่งห่างไกลจากการเป็นแอนิเมชันสำหรับเด็กออกไปทุกที
ประการสุดท้ายนอกจากงานภาพและบทภาพยนตร์แล้ว งานเพลงของหนังก็นับว่ากล้าและท้าทายคนดูแอนิเมชันค่ายปราสาทและโคมไฟไม่น้อยเพราะคราวนี้พีต ด็อกเตอร์เลือกใช้บริการ เทรนซ์ เรซเนอร์ และ แอตติคัส รอส จากวง Nine Inch Nails ซึ่งโด่งดังจากการทำเพลงให้หนัง The Social Network ของเดวิด ฟินเชอร์ ซึ่งคราวนี้มันก็ช่วยให้เรื่องราวของ SOUL ในส่วนที่เป็นโลกหลังความตายยิ่งลึกล้ำและภาคดนตรีของพวกเขาก็เสริมส่งบรรยากาศของโลกดังกล่าวให้ยิ่งสมบูรณ์และเปี่ยมความหมายมากขึ้น
เอาล่ะแม้เราจะขึ้นต้นว่าเราจะอวยหนังเรื่องนี้แบบไม่ลืมหูลืมตาแต่หากจะให้หาข้อเสียมันก็ยังพอเห็นได้อยู่บ้างนะครับเช่นการที่หนังเปิดประเด็นเรื่องความรักของโจไว้แต่ไม่สานต่อหรือเรื่องราวในอาชีพครูดนตรีที่เชื่อว่าถ้าพีต ด็อกเตอร์จะทำหนังสั้นอีกซักเรื่องเกี่ยวกับโจในฐานะครูดนตรีเราก็ไม่ขัดข้องเลยแหละเพราะบอกได้เลยว่าการได้ดูเรื่องราวของครูโจแม้ช่วงสั้น ๆ ตอนต้นของหนังมันก็ “ดีต่อใจ” ไม่แพ้เรื่องราวส่วนที่เหลือเลย
เกร็ดน่ารู้หนัง Soul อัศจรรย์วิญญาณอลเวง
• ผู้กำกับ พีท ด็อกเตอร์ กำกับ Monsters, Inc. (ปี 2001) รวมถึงแอนิเมชั่นรางวัลออสการ์ UP (ปี 2009) และ Inside Out (ปี 2015) และเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายครีเอทีฟที่ พิกซาร์ แอนิเมชั่น สตูดิโอส์ อีกด้วย
• จอน บาทิสต์ นักดนตรีชื่อดังระดับโลก จะเขียนเพลงแจ๊สที่แต่งขึ้นใหม่ให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ นักประพันธ์เจ้าของรางวัลออสการ์ เทรนท์ เรซเนอร์ และแอทติคัส รอส (เดอะ โซเชียล เน็ทเวิร์ค) จากวง ไนน์ อินช์ เนลส์ จะแต่งดนตรีประกอบภาพยนตร์ที่จะล่องลอยระหว่างโลกเห็นความจริงและโลกแห่งจิตวิญญาณ
Soul : ชีวิตคือการใช้ชีวิต
ผลงานการกำกับและเขียนบทเรื่องที่ 3 ของ Pete Doctor โดย 2 เรื่องก่อนหน้าคือ Up (2009) และ Inside out (2015) ผลงาน Animation ของ Pete มักแฝงแง่คิดที่ลึกซึ้งกว่า Animation ทั่วไปเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการก้าวผ่านความเศร้าโศกและการเลิกยึดติดกับคนรักที่ตายจากกันไปใน Up (ซึ่งมีฉากเปิดเรื่องที่เล่าความรักของคุณปู่และคุณย่าได้อย่างลึกซึ้ง และถือเป็นหนึ่งในฉากเปิดเรื่องที่ดีที่สุดตลอดกาล โดยนับรวมถึงหนังทั่วไปที่ไม่ใช่ Animation ด้วย) หรือ การจัดการกับอารมณ์เก็บกดอัดอั้นของวัยรุ่นใน Inside out และในผลงานล่าสุด Soul นั้น Pete จับเอาประเด็นปรัชญาที่มนุษย์ทุกคนต้องเคยสงสัยว่า เราเกิดมาทำไม และ ความหมายของการดำรงชีวิต
Soul เล่าเรื่องของ Joe ครูฝึกสอนดนตรีวัยกลางคนที่มีความฝันอันแน่วแน่ว่าอยากเป็นนักดนตรี Jazz วันนึงฝันของ Joe ก็เป็นจริงเมื่อเค้าผ่านการ audition จนได้รับโอกาสแสดงร่วมวงกับนักดนตรี Jazz ชื่อดัง แต่แล้ว เค้ากลับประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในเช้าวันที่เค้าได้ข่าวดีนั้นเอง โดยที่ยังไม่เคยมีโอกาสได้แสดงดนตรีเลยซักครั้ง วิญญาณของ Joe ดิ้นรนหลีกหนีจากปรโลกจนไปสู่ภพภูมิที่มีวิญญาณใหม่รอไปจุติในโลก โดย Joe ได้ทำหน้าที่พี่เลี้ยงของวิญญาณหมายเลข 22 ในการหาแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ซึ่งวิญญาณรอจุติทุกดวงจะต้องหาสิ่งนี้ให้เจอ มิเช่นนั้นจะไปจุติไม่ได้